EN
TCAP 51.25บาท
-0.25(-0.49%)

เปิดเผยข้อมูลแก้ไข/เพิ่มเติมในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ราชธานีลีส

ที่ ธช.สลอ. 134/2553

วันที่ 1 มิถุนายน 2553

เรื่อง เปิดเผยข้อมูลแก้ไข/เพิ่มเติมในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)

เรียน กรรมการ และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อ้างถึงการยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) โดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารธนชาต"หรือ "ผู้ทำคำเสนอซื้อ") เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา โดยมี บริษัทห ลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด(มหาชน) ("ผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ") เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ของบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน) ("บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง" หรือ "กิจการ") นั้น ธนาคารธนชาต และผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ ได้นำส่งข้อมูลเพิ่มเติมตามความเห็นของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลในส่วนที่ 1 หน้า 1 หัวข้อ 4 วัตถุประสงค์ในการทำคำเสนอซื้อ

แก้ไขจาก

ตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กจ. 53/2545 กรณีบุคคลและผู้ที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 258 ได้มาซึ่งหุ้น ของกิจการมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 50 ซึ่งกิจการนั้นถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 25 จะทำให้บุคคลนั้นมีอำนาจทางอ้อมในบริษัทจดทะเบียน (Chain Principle) ทั้งนี้ การที่ผู้ทำคำเสนอซื้อได้ซื้อหุ้น ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารนครหลวงไทย") จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน ("กองทุนฟื้นฟูฯ") ทำให้ผู้ทำคำเสนอซื้อมีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.32 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด ทำให้ผู้ทำ คำเสนอซื้อมีอำนาจควบคุม บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง ผ่านการถือหุ้นในธนาคารนครหลวงไทย ดังนั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อ ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมดของ บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง ทั้งนี้ผู้ทำคํ าเสนอซื้อ ยังไม่มีนโยบายในการ ดำเนินการเกี่ยวกับบมจ. ราชธานีลิสซิ่ง โดยภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ ผู้ทำคำเสนอซื้อจะ พิจารณาการดำเนินการในเรื่องนี้ตามความเหมาะสมต่อไป

แก้ไขเป็น

กรณีบุคคลและผู้ที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 258 ได้มาซึ่งหุ้นของกิจการมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 50 ซึ่งกิจการนั้นถือ หุ้นในบริษัทจดทะเบียนมากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ 25 หรือการเข้ามามีอำนาจควบคุมในนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้น ของกิจการ โดยการส่งบุคคลเข้าเป็นกรรมการในจำนวนที่มีนัยสำคัญเพื่อควบคุมการดำเนินงานของนิติบุคคล จะทำ ให้บุคคลนั้นมีอำนาจทางอ้อมในบริษัทจดทะเบียน (Chain Principle) ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2553 ผู้ทำคำเสนอซื้อได้ซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารนครหลวงไทย") จากกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ("กองทุนฟื้นฟูฯ") และคณะกรรมการของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ("ธนาคารนครหลวงไทย") ได้แต่งตั้งตัวแทนของผู้ทำคำเสนอซื้อจำนวน 6 ท่าน ซึ่งได้แก่

1) นายปิยะพงศ์ อาจมังกร
2) นายนพดล เรืองจินดา
3) นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล
4) นางกฤษยาณี รัตนชัยชาญ
5) นายสนอง คุ้มนุช
6) นายอรรถวุฒิ แดนทอง

เป็นกรรมการของธนาคารนครหลวงไทยแทนกรรมการที่ลาออก ซึ่งภายหลังการแต่งตั้งตัวแทนของ ผู้ทำคำเสนอซื้อเป็นกรรมการในคณะกรรมการของธนาคารนครหลวงไทยแล้ว คณะกรรมการของธนาคารนคร หลวงไทยประกอบด้วยกรรมการจำนวนทั้งสิ้น 7 คน ทำให้ผู้ทำคำเสนอซื้อมีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญใน ธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 48.32 ของทุน จดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด ทำให้ผู้ทำคำเสนอซื้อมีอำนาจควบคุม บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง ผ่านการถือหุ้นและการส่ง บุคคลเข้าเป็นกรรมการในจำนวนที่มีนัยสำคัญในธนาคารนครหลวงไทย ดังนั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อต้องทำคำเสนอซื้อ หลักทรัพย์ฯ ทั้งหมดของ บมจ. ราชธานีลิสซิ่ง ทั้งนี้ผู้ทำคำเสนอซื้อยังไม่มีนโยบายในการดำเนินการเกี่ยวกับบมจ. ราชธานีลิสซิ่ง โดยภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ ผู้ทำคำเสนอซื้อจะพิจารณาการดำเนินการใน เรื่องนี้ตามความเหมาะสมต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)

 

(ลงชื่อ)
(นายภาณุพันธุ์ ตวงทอง)
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ