แหล่งเงินทุน แหล่งเงินทุนของธนชาตประกันภัย มาจากส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นหลัก โดย ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2564 มีการเปลี่ยนแปลง ผู้ถือหุ้นหลักจากบริษัทฯ และสโกเทีย เนเธอร์แลนด์ โฮลดิ้ง บีวี ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.96 และร้อยละ 49.00 ตามล� ำดับ เป็น 1) บริษัทฯ 2) สโกเทีย เนเธอร์แลนด์ โฮลดิ้ง บีวี และ 3) ธนาคาร ทหารไทยธนชาต เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.96 ร้อยละ 39.00 และร้อยละ 10.00 ตามล� ำดับ สภาพคล่อง ส� ำหรับปี 2564 ธนชาตประกันภัย มีกระแสเงินสดสุทธิ 366 ล้านบาท โดยเป็นกระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมด� ำเนินงาน 1,351 ล้านบาท กระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 40 ล้านบาท และกระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 945 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนชาตประกันภัยมีอัตราส่วนสภาพคล่องสุทธิเท่ากับร้อยละ 650 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต�่ ำที่ คปภ. ก� ำหนดไว้คือไม่ต�่ ำกว่าร้อยละ 100 ปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่อาจมีผลต่อฐานะการเงินหรือการ ด� ำเนินงานอย่างมีนัยส� ำคัญในอนาคต ในปี 2564 ที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยยังคงมีความรุนแรง ส่งผลให้บริษัท ประกันภัยในตลาดขายเบี้ยประกันภัยโควิด 19 ได้จ� ำนวนมากท� ำให้ เบี้ยประกันภัยโควิด 19 มีการเติบโตอย่างมีนัยส� ำคัญ อย่างไรก็ตาม ค่าสินไหมทดแทนจากการประกันภัยโควิด 19 ก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ในส่วนของธนชาตประกันภัยได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าว ค่อนข้างน้อย โดยยังคงมีผลการด� ำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง อันเป็นผล จากการที่ธนชาตประกันภัย ยึดนโยบายการรับประกันภัยอย่าง ระมัดระวัง มีคณะกรรมการและกระบวนการจัดการประเมินความ เสี่ยงได้อย่างตรงจุด ยึดการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีความช� ำนาญ เพื่อครองตลาด โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ที่มีสัดส่วนการขาย ร้อยละ 86 ขณะที่ประกันภัยประเภทอื่น ๆ อยู่ที่ร้อยละ 14 สามารถ ควบคุมและบริหารจัดการค่าสินไหมไว้ได้ ที่ร้อยละ 52 ปี 2565 เป็นอีกหนึ่งปีที่สร้างความท้าทายในการท� ำธุรกิจ อันเนื่องมาจากประเทศไทยยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ โรคโควิด 19 และการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการคาดการณ์ของ “สมาคมประกันวินาศภัยไทย” ธุรกิจประกัน วินาศภัยจะเติบโตที่ร้อยละ 1.5 - 2.5 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม อยู่ที่ 267,100 - 269,800 ล้านบาท จากการที่เบี้ยประกันภัยอาจ ไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากเบี้ยประกันภัยโรคโควิด 19 ได้หยุดขายไป โดยเบี้ยประกันที่กลับมาทดแทนคือ เบี้ยประกันภัยรถยนต์ จากมาตรการ ของรัฐที่เปิดประเทศ จากความสนใจรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ที่มี การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ เติบโตซึ่งคาดการณ์เติบโตไว้ที่ร้อยละ 3 โดยบริษัทประกันภัยอาจ น� ำกลยุทธ์ด้านราคา มาแข่งขันกันมากขึ้นเนื่องจากอัตราค่าสินไหม ในระยะสั้นของปีที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลง รวมถึงแนวโน้มของ เบี้ยประกันสุขภาพจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการหันมาสนใจ สุขภาพมากยิ่งขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นท� ำให้ธนชาตประกันภัย มีการ ปรับตัวและให้ความส� ำคัญกับการเพิ่มช่องทางธุรกิจ โดยร่วมมือ กับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสและการเติบโตทางธุรกิจด้วย มุมมองใหม่ เพิ่มช่องทางการจัดจ� ำหน่ายผ่านโบรกเกอร์เพื่อให้ ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของธนชาตประกันภัยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น 2564 2564 2563 2563 2562 2562 2561 2561 2560 2560 ก� ำไร ก� ำไรสะสม (หน่วย : ล้านบาท) 1,051 1,042 1,449 745 746 347 4,548 4,260 768 648 (หน่วย : ล้านบาท) 126
RkJQdWJsaXNoZXIy ODEyMzQ3